การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียม อยู่ได้นานกี่ปี
การผ่าตัดใส่ข้อเทียม นับเป็นหนึ่งในความก้าวหน้าทางด้านการแพทย์ที่มีผลเปลี่ยนแปลงชีวิตคนมากที่สุด มันหมายถึงการสร้างความแตกต่างระหว่างการเป็นคนพิการจากข้อที่อักเสบ ไปสู่การเคลื่อนไหวได้เกือบเป็นปกติ ในผู้คนหลายล้านคน ในเวลาไม่กี่สิบปีที่ผ่านมานี้ ที่ผ่านมา ข้อสะโพกและข้อเข่า เป็นข้อที่ถูกใส่ข้อเทียมมากที่สุด และได้ผลเป็นที่น่าพอใจมาก ในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ละปีมีคนใส่ข้อสะโพกเทียมมากกว่า 300,000 คน และข้อเข่าเทียม 700,000 คน และโดยทั่วไปได้ผลค่อนข้างดี แต่ทุกครั้งที่มีการผ่าตัดเปลี่ยนข้อ ก็จะมีคำถามสำคัญเกิดขึ้น: จะใช้ได้นานกี่ปี?
มันก็เป็นคำถามที่สมควรแล้ว ไม่มีใครอยากจะเสี่ยง, ทนอยู่กับความไม่สะดวกสบายหลังผ่าตัด และเวลาที่ต้องใช้ในการพักฟื้น เพียงเพื่อจะต้องเข้าผ่าตัดใหม่อีกครั้งในเวลาไม่นาน
ระยะเวลาโดยประมาณ: 10 - 15 ปี
ข้อเข่าเทียม หรือข้อสะโพกเทียม สามารถใช้ได้ประมาณ 10 - 15 ปี แต่บางครั้งอาการข้างเคียงซึ่งพบได้น้อยมาก ก็อาจเกิดขึ้น ซึ่งทำให้จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดอีกไม่นานหลังจากที่ผ่าตัดใส่ข้อเทียมไป ในขณะที่บางคน ข้อเทียมสามารถอยู่ได้นานมากกว่า 20 ปี ดังนั้น จึงยากที่จะรู้ว่าแต่ละคนนั้น ข้อเทียมจะอยู่ได้นานเท่าใด
ทำไมการรู้ระยะเวลาการใช้งานของข้อเทียมจึงสำคัญนัก? เพราะมันจะช่วยให้คนที่ยังไม่แน่ใจว่าจะใส่ข้อเทียมดีหรือเปล่า ได้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ยิ่งไปกว่านั้น ยังต้องตัดสินใจว่า จะเข้ารับการผ่าตัดดีหรือเปล่า ตัวอย่างเช่น คนที่อายุ 30 กว่าๆ อาจจะต้องได้รับการผ่าตัดใส่ข้อเทียมมากกว่า 2 ครั้ง (ครั้งที่ 2 คือ การใส่ข้อเทียม ทดแทนข้อเทียมอันแรกที่เสื่อมสภาพแล้ว) ในคนที่อายุยังไม่มาก ที่จะต้องใส่ข้อเทียม แพทย์อาจแนะนำให้รอจนอาการหนักก่อน โดยหวังว่าจะลดความจำเป็นในการผ่าตัดใส่ข้อเทียมซ้ำสอง หรือซ้ำสามในอนาคต
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2019 มีการวิเคราะห์ผลขนาดใหญ่ 2 ครั้ง ได้ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ Lancet เกี่ยวข้องกับอายุการใช้งานของ ข้อสะโพกเทียม และ ข้อเข่าเทียม ซึ่งมีข้อมูลจากข้อเข่าเทียมเกือบ 300,000 ราย และข้อสะโพกเทียมมากกว่า 200,000 ราย ผลปรากฏว่า:
- เกือบ 60% ของข้อสะโพกเทียม อยู่ได้นาน 25 ปี, 70% อยู่ได้นาน 20 years, และเกือบ 90% อยู่ได้นาน15 ปี
- ส่วนข้อเข่าเทียมนั้น อยู่ได้นานกว่าอีก : 82% อยู่ได้ 25 ปี, 90% อยู่ได้ 20 ปี, และ 93% อยู่ได้ 15 ปี
ตัวเลขประมาณการณ์นี้ สูงกว่าเมื่อก่อนมาก อาจเป็นผลจากเทคนิคการผ่าตัด และวัตถุดิบอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ ได้มีการพัฒนาปรับปรุงขึ้นมาก รวมทั้งการดูแลทางการแพทย์ และการทำกายภาพหลังการผ่าตัดก็ดีขึ้นและทันท่วงที ผู้ที่ดำเนินการวิจัยนี้ยังกล่าวอีกว่า นี่เป็นตัวเลขที่สะท้อนถึง "ผู้ป่วยในชีวิตจริง" (เพราะเป็นการศึกษาวิจัยในผู้ป่วยจากศูนย์การแพทย์หลายแห่ง ซึ่งได้ทำการใส่ข้อเข่าหรือข้อสะโพกเทียม) มากกว่าตัวเลขจำนวนน้อยจากศูนย์การแพทย์เพียงแห่งเดียว
หมายเหตุในการณ์วิจัยนี้:
- การผ่าตัดที่ได้ศึกษาในการวิจัยนี้ ทำในประเทศนิวซีแลนด์, ออสเตรเลีย, เดนมาร์ค, ฟินแลนด์, นอร์เวย์ และสวีเดน ผลอาจแตกต่างจากในสหรัฐอเมริกา หรือประเทศอื่นๆ
- ข้อมูลรายละเอียดไม่อาจเปิดเผยได้ว่า คนไข้คนไหนเหมาะที่จะทำการผ่าตัดใส่ข้อเทียม หรือคนไหนที่ถูกปฏิเสธให้เข้ารับการผ่าตัด เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงในการเกิดผลข้างเคียง หรือผ่าตัดไม่สำเร็จ
การผ่าตัด มักเป็นวิธีที่จะเลือกทำท้ายสุด (และบางครั้งเป็นวิธีที่ดีที่สุด)
เมื่อข้อสะโพกหรือข้อเข่าเสื่อม ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ยา, กายภาพบำบัด, ยาฉีดต่างๆ และวิธีการรักษาอื่นๆที่ไม่ใช่การผ่าตัด อาจช่วยอะไรไม่ได้มาก สำหรับคนที่มีสุขภาพแข็งแรงพอที่จะทำการผ่าตัดใหญ่ได้ (และยินดีที่จะทำ) การผ่าตัดใส่ข้อเทียม มักจะเป็นเพียงตัวเลือกเดียวที่จะมีโอกาสทำให้ผู้ป่วยลดความเจ็บปวดลงได้อย่างมีนัยสำคัญ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การผ่าตัดใส่ข้อเทียมในผู้ป่วยข้ออักเสบนั้น ดูเหมือนจะเป็นวิธีการรักษาอันดับสุดท้าย เมื่อไม่มีวิธีอื่นช่วยแล้ว แต่ถึงแม้ว่าข้อเทียมนั้น จะไม่ได้ใช้งานได้ตลอดไป แต่มันก็อาจจะนานกว่าที่เราคิด