ทำไมการล้างพิษ จึงมีความสำคัญต่อสุขภาพ

ทำไมการล้างพิษจึงมีความสำคัญต่อสุขภาพ

          การดำเนินเข้าสู่วัยชรานั้นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต      มันเป็นสิ่งที่ วันหนึ่งเราทุกคนต้องเผชิญ       แต่ในขณะที่ไม่มีใครสามารถหลบหนีความแก่ชราได้ แต่ข่าวดีก็คือ  เราสามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบบางอย่างที่เลวร้าย เพียงแค่เลือกวิถีชีวิตที่ถูกต้อง  นับตั้งแต่บัดนี้นี้

         ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไรก็ตาม  มันก็มีประโยชน์มากมาย จากการบำรุงรักษาร่างกายของคุณอย่างถูกต้อง      แม้ว่าคุณเพิ่ง
จะเริ่มต้นเส้นทางเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น เช่นเดียวกับรถยนต์ของคุณต้องการการบำรุงรักษาเป็นประจำ ... ร่างกายของคุณก็
ต้องการการล้างพิษเป็นประจำเพื่อสุขภาพที่ดีเช่นเดียวกัน

          ลองนึกภาพว่า  มันจะเป็นอย่างไรถ้าโลกนี้ไม่มีมะเร็ง     

         ไม่มีการฉายแสง, เคมีบำบัด หรือการผ่าตัด      ไม่มีการเดิน หรือวิ่งมาราธอนเพื่อระดมทุนในการค้นหาวิธีรักษามะเร็งไม่มีใครตายด้วยโรคมะเร็ง ... ไม่มีแม้แต่คนที่ได้รับการวินิจฉัย

         ฟังดูเหมือนแฟนตาซีใช่มั้ย?

 มันอาจเป็นอนาคตของเราก็ได้

อย่างไรล่ะ?
         วิทยาศาสตร์ที่ล้ำสมัยล่าสุด  ได้ค้นพบระบบการต่อสู้มะเร็งที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของคุณ…และมันสามารถหยุดหนึ่งใน
สาเหตุหลักของโรคมะเร็งในปัจจุบัน
และมันไม่ใช่เรื่องของพันธุกรรม
อันที่จริงแล้ว นั่นเป็นหนึ่งในความเข้าใจผิดที่สุดเกี่ยวกับโรคมะเร็ง
แต่คุณคงได้ยินมาตลอดเวลา ราวกับว่ามันเป็นความจริงที่พิสูจน์แล้วว่า พันธุกรรมเป็นสาเหตุของมะเร็ง ตามที่ปรากฏ
อยู่ตามสื่อ มีการรายงานว่า 30% - 50% ของมะเร็งทั้งหมดเกิดจากยีนของคุณ
การวิจัยในปัจจุบัน กำลังเผยให้เห็นว่าตัวเลขนั้นผิด
จากหลักฐานล่าสุดแสดงให้เห็นว่า มีเพียงร้อยละ 5 ของโรคมะเร็งเท่านั้น ที่เกิดจากพันธุกรรม
แล้ว 95% อื่นล่ะ?

หลักฐานทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์ว่า  เรากำลังว่ายอยู่ใน “ทะเลแห่งมะเร็ง”

ทุกวันนี้โรคมะเร็งแพร่ระบาดรุนแรงยิ่งขึ้น

         จากข้อมูลของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ “ในปี 2555 มีผู้ป่วยรายใหม่ 14 ล้านราย และผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง 8.2 ล้านคนทั่วโลก
จำนวนผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่จะเพิ่มขึ้นเป็น 22 ล้านคนภายในอีกสองทศวรรษข้างหน้า” ในขณะที่จำนวนผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่เพิ่มขึ้นทุกปี แต่ไม่พบการรักษาใหม่อย่างแท้จริง มีแค่การตรวจวินิจฉัยมะเร็งแบบใหม่
การผ่าตัดแบบใหม่, เคมีบำบัดแบบใหม่ และการฉายรังสีแบบใหม่ นี่คือสิ่งที่เป็นอยู่ทุกวีนนี้ บริษัทยา และการแพทย์กระแสหลัก ต่างก็ลงทุนด้านการเงินในการหาวิธี
การตรวจวินิจฉัยมะเร็ง, การผ่าตัด, เคมีบำบัด และการ
ฉายรังสีแบบใหม่เพิ่มขึ้น
เนื่องจากผลกำไรของพวกเขาขึ้นอยู่กับมัน

ในขณะเดียวกัน บริษัทต่างๆกำลังปิดบังความจริงเกี่ยวกับหนึ่งในสาเหตุอันดับต้น ๆ ของโรคมะเร็งจากคุณ เพราะสิ่งที่พวก
เขาขาย นั้นเป็นสาเหตุของมะเร็ง ดังนั้น พวกเขาจึงปกปิดทุกรายงานที่แสดงว่าผลิตภัณฑ์ของพวกเขามีอันตรายอย่างไร

นั่นเป็นเหตุผลที่คุณจะไม่เห็นข่าวพาดหัวที่จะแสดงว่า สารพิษเป็นหนึ่งสาเหตุใหญ่ที่สุดที่อยู่เบื้องหลังอัตราการเกิดมะเร็งที่
กำลังขยายตัวในปัจจุบัน

สารพิษในผักผลไม้สด, ในเครื่องสำอางค์, ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ... นมผงเด็ก, น้ำดื่ม, วัสดุคลุมดินในสวน ... ภาชนะพลาสติก,
เฟอร์นิเจอร์, พรมปูพื้น ...

ความจริงก็คือเราได้วางยาพิษตัวเอง

โลกมนุษย์ ถูกสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบ และร่างกายเราก็เช่นเดียวกัน

จากนั้นทุกสิ่งที่เราสร้างขึ้นเพื่อความก้าวหน้าและอนาคตที่สดใส ... กลายเป็นสาเหตุของมะเร็ง สิ่งต่าง ๆ เช่น อาหารที่เต็ม
ไปด้วยสารก่อมะเร็ง, ระดับมลพิษทางอากาศที่เป็นอันตราย, เทคโนโลยีการแผ่รังสีที่เป็นพิษ, การปลูกพืชที่เต็มไปด้วยการใช้
สารพิษ ฯลฯ

ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพชั้นนำต่างเห็นพ้องกัน ว่าหนึ่งในสาเหตุใหญ่ที่สุดของโรคมะเร็งคือ ร่างกายที่เป็นพิษ

 

ทำไมร่างกายของเราจึงไม่สามารถ Detox ด้วยตัวเองอีกต่อไป

ร่างกายของเราได้รับการออกแบบมาอย่างสมบูรณ์  เพื่อจัดการกับสารพิษตามธรรมชาติในปริมาณปกติ

แต่สารพิษที่มนุษย์สร้างขึ้นจำนวนมากที่เราได้สัมผัสในโลกสมัยใหม่ของเรานั้น   มากเกินกว่าที่ร่างกายของเราจะจัดการได้

         ตามข้อมูลของคณะทำงานด้านสิ่งแวดล้อม  กล่าวว่า มีสารเคมีที่มนุษย์สร้างขึ้นเกือบ 85,000 ชนิดที่ปัจจุบันได้รับการอนุมัติให้
ใช้ในสหรัฐอเมริกา และยังคงมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอีกอย่างรวดเร็ว ดังนั้น สารพิษจึงสะสมในร่างกายของเรา และกระบวนการของโรคก็จะเริ่มขึ้น นี่คือสิ่งที่แม้แต่การแพทย์กระแสหลักก็ต้องยอมรับ พวกเขาเรียกสารพิษเหล่านี้ว่า "สารก่อมะเร็ง" สารก่อมะเร็งเป็นเพียง
สารพิษที่ได้รับการยืนยันว่าเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง แต่สารพิษทั้งหมด สามารถนำไปสู่ร่างกายที่เป็นพิษ และเกิดการพัฒนาเป็นโรคมะเร็ง

นี่เป็นสถิติเกี่ยวกับสารพิษที่น่ากลัว:

  •  มะเร็งเต้านม  มีความเชื่อมโยงกับสารพิษโลหะหนัก  เช่น โคบอลต์, ตะกั่ว และทังสเตน
  • ความเสี่ยงที่ลูกๆของคุณจะเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว เพิ่มขึ้น 70%   หากบ้านของคุณอยู่ในระยะ 200 หลา จากสายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้า
  • การสัมผัสกับสารกำจัดศัตรูพืช, สารกำจัดวัชพืช, สีย้อมบางชนิด, ปิโตรเคมี และสารพิษอื่น ๆ   จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งตับอ่อน

 

บริษัทที่ทำธุรกิจด้วยความโลภ  จะทำทุกอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้คุณได้รู้ถึงสถิติเหล่านี้

         ที่จริงแล้ว  ในคดีล่าสุด โดยเหยื่อที่เป็นมะเร็ง  กับ มอนซานโต (Monsanto)    หลักฐานถูกค้นพบว่ามอนซานโตรังแกนักวิทยาศาสตร์
ให้ปิดปากเกี่ยวกับความจริงที่ว่า ยาฆ่าแมลง Roundup ของพวกเขาทำให้เกิดโรคมะเร็ง พบอีเมลของบริษัท ที่แสดงให้เห็นว่า มอนซานโตกำลังปกปิดรายงาน เกี่ยวกับความเกี่ยวพันของผลิตภัณฑ์ของพวกเขากับโรคมะเร็ง
ทีมกฎหมายของโจทก์ยังพบหลักฐานว่า มอนซานโตมีผลการวิจัยที่บิดเบือน เพื่อ“ พิสูจน์” ว่า Roundup นั้นปลอดภัย แน่นอน สารกำจัดวัชพืช และยาฆ่าแมลง เป็นเพียงยาพิษหยดเดียวในโลกของเรา และเรากำลังว่ายอยู่ในทะเลแห่งยาพิษนั้น
เป็นประจำทุกวัน

 

ทำไมเราต้องดีท็อกซ์ร่างกายของเรา

         ร่างกายมนุษย์ เหมือนเครื่องยนต์ของรถยนต์  ตรงที่มันมีแนวโน้มที่จะ “อุดตัน” จากการสัมผัสกับสารพิษอย่างต่อเนื่อง      ผลิตภัณฑ์
เคมีที่ใช้ทำความสะอาด , มลภาวะในสิ่งแวดล้อม, ยา, อาหารแปรรูป ฯลฯ - สิ่งเหล่านี้ เป็นภาระของกระบวนการกำจัดสารพิษตาม
ธรรมชาติของร่างกาย ในขณะที่ระบบของร่างกายเรานี้ ได้รับการออกแบบมาเพื่อจับ และขับล้างสารพิษออกจากร่างกายให้
มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่มันก็สามารถที่จะถูกโจมตีด้วยสารพิษอันมากมายมหาศาลอย่างต่อเนื่องของโลกสมัยใหม่ของเรา ดังนั้น การเสริมสร้างความสามารถในการขับสารพิษของร่างกายจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้แน่ใจว่า ร่างกายเราจะสามารถ
กำจัดสารพิษใดๆออกทั้งหมดอย่างรวดเร็ว และทั่วถึงที่สุดเท่าที่จะทำได้
จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณจะต้องปฏิบัติตามโปรโตคอลบางอย่าง
เป็นประจำ
 

 

 การล้างพิษเป็นวิถีชีวิตที่จำเป็น

          การล้างพิษเป็นอะไรที่มากกว่าความคิดที่ผิวเผินของความรู้สึก "สะอาด"   ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทรนด์อาหารสมัยใหม่  มันเกี่ยวกับการปกป้องร่างกายของคุณ จากผลกระทบที่แท้จริง และจากความเสียหายของการสะสมพิษ      จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่า   การมีสารพิษสะสมอยู่ในร่างกาย  สามารถก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพมากมาย - ตั้งแต่ความเหนื่อยล้าเรื้อรัง, ปวดกล้ามเนื้อ และปวดข้อ   ไปจนถึงโรคทางสมอง และมะเร็ง


         การได้รับพิษเรื้อรัง  ยังเป็นสาเหตุสำคัญของโรคอ้วน ซึ่งมีผลกระทบมากกว่าหนึ่งในสามของชาวอเมริกัน      การศึกษาในปี 2012
ที่ตีพิมพ์ในวารสาร มุมมองด้านสุขภาพสิ่งแวดล้อม (Environmental Health Perspectives) อธิบายถึง การที่ “obesogens -
สารเคมีที่ไปรบกวนต่อมไร้ท่อ” Obesogens: The Effect of Toxins on Fat Loss | Article | PTontheNetเป็นตัวการหลักที่ทำให้เกิดโรคอ้วน ซึ่งบ่อยครั้งจะไปกล่าวโทษแต่การรับประทานอาหารมากเกินไป
แทนที่จะพูดถึงสาเหตุหลัก คือ การมีร่างกายที่เต็มไปด้วยสารพิษและมลภาวะ

ทำไมจึงต้องล้างสารพิษในร่างกายก่อนการลดน้ำหนัก

         ปัญหาที่เกิดขึ้นในการพยายามลดน้ำหนักก่อนล้างพิษ  ก็คือ สารพิษยังอยู่ในเนื้อเยื่อไขมัน      ซึ่งหมายความว่า  ตั้งแต่นาทีแรก
ที่คุณเริ่มต้นเผาผลาญไขมันนั้น สารพิษเหล่านั้นจะเริ่มท่วมท้นเข้าสู่ระบบของคุณทันที และขึ้นอยู่กับระดับความเป็นพิษของ
ร่างกายคุณ สารพิษเหล่านี้ อาจไปสะสมอยู่ที่อวัยวะสำคัญของคุณ ผู้ให้การรักษาแบบองค์รวมหลายคน แนะนำให้ทำดีท็อกซ์ร่างกายก่อนที่จะพยายามลดน้ำหนัก นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณควร
ดูแลเรื่องอาหารให้ปราศจากสารพิษเท่านั้น แต่ก่อนอื่น เราต้องทำอะไรบางอย่างก่อนที่จะเริ่มดำเนินการยกเครื่องอาหาร
ที่จะทำให้คุณลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็วมาก “จนถึงตอนนี้ เราพบว่า สารพิษส่วนใหญ่เป็นโมเลกุลที่ละลายในไขมัน” จากรายงานในปี 2002 ของ Deanna J. Liska, PhD
ที่ได้อธิบายไว้ เกี่ยวกับธรรมชาติของสารพิษที่ฝังตัวอยู่ในเนื้อเยื่อไขมัน โดยในรายงานได้อธิบายว่า: "ในขณะที่โมเลกุลของสารพิษที่ละลายในน้ำ จะถูกขับออกทางปัสสาวะ แต่โมเลกุลที่ละลายในไขมันจะไม่สามารถเข้าไปในปัสสาวะ
ได้ และจะถูกดึงดูดไปที่ชั้นไขมันในเยื่อหุ้มเซลล์ การดึงดูดนี้เอง ช่วยให้สารพิษสามารถเข้าไปภายในเซลล์ได้อย่างง่ายดาย
และไปทำให้เกิดผลร้ายต่างๆในระดับเซลล์”

 

 

 

วิธีการดีท๊อกซ์ร่างกาย: แหล่งที่มาของสารพิษมากที่สุด 7 แหล่ง

         สิ่งแรกที่คุณต้องทำก่อนที่จะเริ่มทำการดีท๊อกซ์  ก็คือต้องลดการได้รับพิษเข้าร่างกายมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้      ไม่มีประโยชน์
ในการพยายามกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย ถ้าคุณยังได้รับสารพิษอย่างต่อเนื่อง อาจจะโดยไม่เจตนาก็ตาม เพื่อให้ร่างกาย
มีกระบวนการล้างสารพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณจะต้องให้ตับ และลำไส้ ได้หยุดพักจากการทำหน้าที่ขับสารพิษจำนวนมาก
ในคราวเดียว

ต่อไปนี้เป็นแหล่งที่มาของสารพิษที่พบได้ทั่วไป 7 ประการที่คุณต้องระวัง:

#1 – Endocrine-disrupting chemicals (EDCs) - สารที่รบกวนการทำงานของต่อมไร้ท่อ

Evaluating groups of endocrine disrupting chemicals and their ...

         เป็นทั้งความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมและอาหาร     สาร EDC รวมถึง สาร phthalates ในพลาสติก, polychlorinated biphenyls 
(PCBs) ในอุปกรณ์ไฟฟ้า และหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์, bisphenol-A (BPA) ที่ใช้ในการเคลือบด้านในของกระป๋องบรรจุอาหาร,
สเตียรอยด์สังเคราะห์ในผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ และ
สารประกอบเอสโตรเจนในอาหารที่ทำจากถั่วเหลือง

#2 – Pesticides (ยาฆ่าแมลง)

         เหตุผลที่ควรซื้อ และบริโภคผลิตผลทางการเกษตรและเนื้อสัตว์ ที่ปลอดสารเคมีทุกครั้งที่เป็นไปได้  ก็เพราะสารกำจัดศัตรูพืช
ที่อยู่ในอาหารทั่วไปมีพิษสูง ยาฆ่าแมลง และสารกำจัดวัชพืช ถูกออกแบบมาเพื่อทำลายสิ่งมีชีวิต มันสามารถสะสมอยู่
ในร่างกาย และคอยทำลายสุขภาพของเรา

#3 – “Soft” and Heavy Metals (โลหะหนัก)

         สิ่งที่ทำให้โลหะเช่นตะกั่ว, อลูมิเนียม, ปรอท, แคดเมียม, สารหนู และนิกเกิล เป็นอันตรายต่อเรา ก็คือ พวกมันกำลังแพร่กระจายอย่างมากสู่สภาพแวดล้อม บ่อยครั้งที่พวกมันจะไม่แสดงผลทันทีในร่างกายเรา เนื่องจากมีการสะสมทีละเล็กทีละน้อย       แหล่งของสารพิษโลหะหนักเหล่านี้ ได้แก่ :

  • มลภาวะทางอากาศ
  • Non- stick cookware (ภาชนะชนิดเคลือบผิวลื่น) 
  • เครื่องสำอาง
  • วัคซีน
  • การอุดฟันด้วยอมัลกัม
  • ควันบุหรี่
  • ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในครัวเรือนทั่วไป
  • ผลิตภัณฑ์อาหารที่ปนเปื้อน

         ตัวอย่างเช่นอาหารแปรรูปที่มีน้ำเชื่อมข้าวโพดฟรุกโตสสูง (high-fructose corn syrup)  เป็นแหล่งของสารปรอท    เช่นเดียวกับข้าวกล้อง (และข้าวอื่นๆ ) ที่ปลูกในดินปนเปื้อน

 

 #4 – Fluoride (ฟลูออไรด์)

 

         พิษจากการทำลายสมองและกระดูก ยากที่จะหลีกเลี่ยง  หากคุณอาศัยอยู่ในชุมชนที่เติมฟลูออไรด์ลงในแหล่งน้ำสาธารณะ 

 

#5 – Food Additives, Preservatives, and Growth Hormones (วัตถุเจือปนอาหาร, สารกันบูด และฮอร์โมนการเจริญเติบโต)

 
         มีคำพูดที่บอกว่า  ถ้าอาหารอะไรโฆษณาทางโทรทัศน์  คุณอาจไม่ควรกินมัน!      ผลิตภัณฑ์อาหารที่บรรจุหีบห่อ และอาหารแปรรูป
มากมาย เต็มไปด้วยสารกันบูด เช่น โซเดียมเบนโซเอต, โมโนโซเดียมกลูตาเมต (MSG - ผงชูรส), น้ำตาลขัดขาว, สารให้ความ
หวานเทียม, สีผสมอาหารสังเคราะห์ และสารสังเคราะห์อื่นๆ
ที่ไม่ใช่อาหาร ที่นำไปสู่การแก่ก่อนวัย และโรคที่เกิดจากความเสื่อม
หลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ และกินเฉพาะอาหารที่บริสุทธิ์ และเรียบง่าย ที่ปลูกแบบออร์แกนิก, ทำจากส่วนประกอบที่ไม่ผ่านการฉาย
รังสี ก็
จะช่วยให้ลดการได้รับสารพิษเข้าสู่ร่างกายคุณ
 
 #6 – Electronic Smog

         หรือที่เรียกว่า  Electromagnetic Frequency (EMF - สนามแม่เหล็กไฟฟ้า) หรือ Electromagnetic Radiation (EMR - คลื่นแม่เหล็ก
ไฟฟ้า) สิ่งเหล่านี้เป็นสารพิษที่มองไม่เห็น คนส่วนใหญ่จึงไม่ได้คิดถึงมากนัก แต่โทรศัพท์มือถือ, Wi-Fi, สมาร์ทมิเตอร์,
เสาสัญญานของระบบ 5G, เตาอบไมโครเวฟ, แล็ปท็อป และอุปกรณ์อื่น ๆ อีกมากมาย กำลังปลดปล่อยรังสีอยู่ตลอดเวลาสู่สิ่ง
แวดล้อมรอบตัวคุณ ซึ่งจะสร้างความเสียหายในระดับเซลล์ และยังสามารถเปลี่ยนแปลงรหัสพันธุกรรมในเซลล์ของคุณได้ ตัวอย่างเช่น การได้รับรังสีจากโทรศัพท์มือถือ มีความเชื่อมโยงกับมะเร็งหลายชนิด รวมถึงมะเร็งสมอง 2 ประเภท (gliomas
และ acoustic neuromas) การหลีกเลี่ยงอุปกรณ์เหล่านี้เป็นเรื่องยากสำหรับคนส่วนใหญ่ ดังนั้น จำกัดการใช้อุปกรณ์เหล่านี้
ให้น้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ และลองหาเครื่องมือบางอย่างที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อต่อต้าน EMF
 
 

#7 – Pharmaceutical Drugs

         สิ่งที่สังคมส่วนใหญ่บอกว่าเป็นยา (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการรักษาโรคมะเร็ง)    ร่างกายของเรามองว่าเป็นยาพิษ      ยา
เป็นหนึ่งในสารพิษที่เลวร้ายที่สุดในโลกสมัยใหม่ของเรา ยาเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะสะสมอยู่ในเนื่อเยื่อไขมัน และระบบประสาท
ยาบางชนิดมีค่าครึ่งชีวิตที่ยาวนาน ซึ่งหมายความว่า พวกมันจะไม่สลายตัวไปอย่างรวดเร็ว และอาจใช้เวลาเป็นเดือน หรือเป็น
ปี กว่าที่จะถูกกำจัดออกไปจากร่างกายจนหมด เราไม่ได้แนะนำให้ทุกคนเลิกทานยา แต่ก่อนที่จะรับใบสั่งยาจากแพทย์ คุณควรถามแพทย์ว่า มีวิธีอะไรบ้างไหม เช่น การเปลี่ยนแปลง
อาหาร หรือวิถีชีวิต ที่อาจใช้แทนการรับประทานยาได้ คุณจะประหลาดใจ ที่พบว่า มีอาการ หรือโรคมากมาย ที่สามารถดีขึ้นได้
หากได้รับการแก้ไขผ่านการเปลี่ยนแปลงอาหาร และการปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิต เช่น ดูแลเรื่องระดับความเครียด และคุณภาพ
การนอนหลับ