ยาลดกรดทำให้ COVID-19 เป็นอันตรายมากขึ้น
องค์การอาหารและยา (FDA) ได้เพิกเฉยต่ออันตรายของยาลดกรดกลุ่ม PPIs มานาน ANH (Alliance for Natural Health)-USA ได้ส่งคำร้องของพลเมือง (Citizens Petition) ไปยัง FDA เกี่ยวกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคปอดบวม (pneumonia) ที่เกี่ยวข้องกับยายับยั้งโปรตอนปั๊ม (proton pump inhibitor - PPI) สำหรับรักษากรดไหลย้อน ผลข้างเคียงนี้ได้รับการรวบรวมจัดทำเป็นเอกสารมาหลายปีแล้ว แต่ FDA ก็ยังคงปฏิเสธที่จะอัปเดตฉลากยาเหล่านี้เพื่อเตือนถึงอันตรายนี้ ผลข้างเคียงนี้ยิ่งน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีผลกระทบเกี่ยวกับการแพร่ระบาดในปัจจุบัน ซึ่งโจมตีระบบทางเดินหายใจ
ยาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเหล่านี้ (Nexium และ Prevacid เป็นชื่อทางการค้าที่เป็นที่นิยม) ขัดขวางการผลิตกรดในกระเพาะอาหาร และใช้ในการรักษาอาการ heartburn และกรดไหลย้อน (GERD - gastroesophageal reflux disease) PPI เชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคปอดบวม (pneumonia) ซึ่งน่าเป็นห่วงเป็นพิเศษกับ COVID-19 และความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นลักษณะของผู้ป่วยขั้นรุนแรง
กลไกที่ PPI ก่อให้เกิดโรคปอดบวมยังไม่เป็นที่เข้าใจนัก แต่ทฤษฎีหนึ่งก็คือ กลไกเหล่านี้ทำให้ “acid mantle (สภาพกรด)” ของกระเพาะอาหาร (ซึ่งส่งผลต่อต้านแบคทีเรียที่อยู่ในกระเพาะอาหาร) ลดลง โดยปกติ pH ในกระเพาะอาหารจะอยู่ที่ประมาณ 2 ซึ่งจะจำกัดการเพิ่มจำนวนของแบคทีเรียที่กินเข้าไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ PPI จะเพิ่ม pH นี้ให้สูงกว่า 4 เป็นเวลาประมาณ 24 ชั่วโมง ซึ่งทำให้กลไกการป้องกันตามธรรมชาตินี้ลดลง PPIs อาจทำให้ gastric emptying ล่าช้า, ปริมาณสิ่งที่อยู่ในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้น, ปริมาณแบคทีเรียมากขึ้น และความดันที่เพิ่มขึ้นต่อกล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง, ทำให้เกิดกรดไหลย้อน ที่นำแบคทีเรียกลับเข้าสู่ทางเดินหายใจ และทำให้โอกาสในการติดเชื้อเพิ่มขึ้น อีกทฤษฎีหนึ่งคือ PPI ลดความเป็นกรดของระบบทางเดินอาหารส่วนบน ซึ่งส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของแบคทีเรียในกล่องเสียง, หลอดอาหาร และปอด
PPIs ยังส่งผลกระทบต่อจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับการที่ภูมิคุ้มกันลดลง และเพิ่มความเสี่ยงโรคปอดบวม นี่คือกุญแจสำคัญ ขณะนี้เรากำลังเผชิญกับการระบาดของไวรัสที่โจมตีระบบทางเดินหายใจ PPI ไม่เพียงแต่ทำให้การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันของเราอ่อนแอลงเท่านั้น แต่ยังทำให้เราเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินหายใจ ซึ่งอาจทำให้เรามีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนของ COVID-19
การวิจัยที่สำคัญพบว่า PPI ปิด acid pumps ไม่ใช่แค่ในกระเพาะอาหาร แต่ในเซลล์อื่น ๆ ของร่างกายด้วย ซึ่งรบกวนวิธีที่เซลล์สร้างพลังงาน และขับสารพิษ นอกจากนี้ ยังส่งผลให้เกิด “ระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ” อ้างถึงงานวิจัยของเขาเกี่ยวกับ PPI และผลกระทบต่อไลโซโซม แพทย์คนหนึ่งสรุปไว้ดังนี้: “ผมคิดว่าตอนนี้เรามีหลักฐานของผู้
มีผู้ป่วยปอดบวมในสหรัฐฯประมาณ 4.9 ล้านรายต่อปี ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมากกว่า 250,000 ราย และมีผู้เสียชีวิต 50,000 ราย ค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคปอดบวมในสหรัฐฯอยู่ที่ประมาณ 13,400 พันล้านดอลลาร์ PPI อาจทำให้เราเสียค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปีสำหรับโรคปอดบวมเพียงอย่างเดียว โดยไม่ต้องพูดถึงอันตรายต่อสุขภาพอื่น ๆ ที่มีสาเหตุมาจาก PPI
การแพร่ระบาดของโควิด -19 เป็นการตอกย้ำความสำคัญของอันตรายเหล่านี้ ผู้ใช้ PPI หลายล้านคนต้องได้รับการเตือนว่า การใช้ยาเหล่านี้จะส่งผลต่อภูมิคุ้มกัน และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคปอดบวมซึ่งเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้อง อย่างน้อยที่สุดในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่โจมตีระบบทางเดินหายใจ
ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขกล่าวว่า ระหว่าง 60 ถึง 70% ของผู้ที่รับประทานสิ่งเหล่านี้
ไม่จำเป็นต้องใช้ยา ยาลดกรด เช่น PPI ไม่ได้แก้ไขสาเหตุของปัญหาในกระเพาะอาหาร ซึ่งมักจะเป็นกรดในกระเพาะอาหารน้อยเกินไป ไม่ใช่มากเกินไป ซึ่งหมายความว่า ในหลาย ๆ กรณี การทานยาลดกรดจะทำให้ปัญหากระเพาะอาหารแย่ลง
ผลข้างเคียงอื่น ๆ ของยายับยั้งการหลั่งกรด คือ
- เพิ่มความเสี่ยงที่ทารกจะเป็นโรคหอบหืด หากคุณแม่ตั้งครรภ์รับประทานยา
- เพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อแบคทีเรียและกระดูกหัก
- ทำให้เกิดโรคไตทั้งเฉียบพลันและเรื้อรัง
- เพิ่มความเสี่ยงโรคสมองเสื่อมได้มากถึง 52%
- เพิ่มความเสี่ยงหัวใจวายได้มากถึง 20%
องค์การอาหารและยาได้ออกคำเตือนหลายประการเกี่ยวกับ PPI แล้ว รวมถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการแตกหักของกระดูก (bone fracture), hypomagnesemia (ระดับแมกนีเซียมในเลือดต่ำ) และโรคอุจจาระร่วงที่เกี่ยวข้องกับเชื้อ Clostridium difficile
ข้อมูลจาก AACI (American Anti-Cancer Institute) Newsletter ฉบับประจำเดือนกรกฎาคม 2020