AOP
FitLine Activize Oxyplus (AOP)
ช่วยฟื้นการอ่อนแรง และเพิ่มพลังอย่างมากมาย
More Energy & Power
AOP : ช่วยฟื้นฟูระบบเมตาบอลิซึม และสร้างพลังงาน
ฟิตไลน์ AOP นำเสนอส่วนประกอบที่ช่วยฟื้นฟูระบบเมตาบอลิซึม และสร้างพลังงานให้กับร่างกายของเรา ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในการใช้ชีวิตในวันใหม่
- NTC (Nutritional Transport Concept) ส่งเสริมการดูดซึมสารอาหารอย่างเต็มที่
- อุดมไปด้วยวิตามินบี 6 และวิตามินซี ซึ่งช่วยฟื้นฟูระบบเมตาบอลิซึม และสร้างพลังงานให้กับร่างกายของเรา
- มีวิตามินบี 2 (ไรโบเฟลวิน) และวิตามินบี 3 (ไนอาซิน) ช่วยลดความเหนื่อยล้า และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
ขนาดผลิตภัณฑ์ : บรรจุกระป๋องที่บริโภคใน 1 เดือน ราคา 1,560 บาท
วิตามินบีคอมเพล็กซ์
B-Complex ได้ชื่อว่า "วิตามินพลังงานและนักสู้ความเครียด" เนื่องจากวิตามินบี มีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดในการเผาผลาญพลังงานของเซลล์ เช่น ไกลโคลิซิส (glycolysis) เป็นกระบวนการสลายกลูโคส, วัฎจักรเครบส์ (Krebs cycle) และวิถีเพนโตส (pentose pathways) วิตามินบีทำหน้าที่เป็นโคแฟกเตอร์ ในการเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตเป็นกลูโคส ซึ่งร่างกายเผาผลาญเพื่อผลิตพลังงาน
ตัวอย่างเช่น กระบวนการไกลโคไลซิส เป็นการเปลี่ยนพลังงานที่เก็บไว้ในรูปไกลโคเจน ให้เป็นโมเลกุลของกลูโคส ต้องใช้วิตามินบี 6 และไบโอติน การเปลี่ยนไพรูเวต (เมตาบอไลต์ของกลูโคส) เป็นอะซิทิลโคเอนไซม์เอ (ขั้นตอนแรกในวงจรเครบส์ในการเผาผลาญพลังงาน) ต้องใช้ B-5 และการเมตาบอลิซึมต่อไป ต้องใช้ไบโอติน, B-2 และ B-3
หากคุณขาดโคแฟกเตอร์ หรือสารอาหารที่เป็นตัวช่วยเหล่านี้ ผลที่ตามมาก็คือ ความเหนื่อยล้า, อ่อนเพลีย และความเซื่องซึม และอาจมีปัญหาอื่นๆตามมาอีกมากมาย
วิตามินบี มีส่วนสำคัญในการเผาผลาญไขมันและโปรตีน จำเป็นสำหรับการทำงานที่ปกติของระบบประสาท และอาจเป็นปัจจัยเดียวที่สำคัญที่สุดสำหรับสุขภาพของเส้นประสาท ในช่วงที่มีความเครียด ระบบประสาทอาจได้รับวิตามินบีไม่เพียงพอ สถานการณ์ที่ทำให้เกิดความเครียด ได้แก่ การทำงานหนักเกินไปทางร่างกาย หรืออารมณ์, การติดเชื้อ หรือการบาดเจ็บ, การอดอาหาร หรือรับประทานอาหารที่โภชนาการต่ำ, การใช้แอลกอฮอล์และ / หรือยาเสพติดมากเกินไป และการออกกำลังกาย หรือฝึกซ้อมกีฬาหนักเกินไป
นอกจากนี้วิตามิน B-Complex บางครั้งเรียกว่า วิตามินเพื่อความงาม เพราะจำเป็นต่อสุขภาพผม, ผิวหนังและเล็บ
วิตามินบี เป็นวิตามินที่ละลายน้ำ และจำเป็นต้องเติมเต็มตลอดทั้งวัน ควรรับประทานวิตามินบี ในตอนเช้า และบางครั้ง ในบางคนที่มีปัญหาด้านสุขภาพ อาจจำเป็นต้องเสริมวิตามินบีในปริมาณที่สูงขึ้น
วิตามินบี 1 (Thiamine)
ไทอามีน เกี่ยวข้องกับการสลายคาร์โบไฮเดรตของร่างกาย การรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง จะเพิ่มความต้องการ B-1 B-1 เพิ่มการผลิตกรดในกระเพาะอาหาร ซึ่งจำเป็นสำหรับการย่อยอาหาร และจำเป็นสำหรับกล้ามเนื้อในกระเพาะอาหารและลำไส้
ชื่อเล่นของไทอามีนคือ วิตามิน "ขวัญกำลังใจ" เนื่องจากระดับ B-1 ที่ลดลงอาจส่งผลให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้ พบว่าโรคจิตเภทและผู้ที่ทุกข์ทรมานจากความผิดปกติทางจิตอื่น ๆ มีแนวโน้มที่จะมี B-1 อยู่ในระดับต่ำ
ไทอามีน ยังจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโต, การเจริญพันธุ์, การให้นมบุตร และการทำงานปกติของหัวใจและระบบประสาท
โรคขาด B-1 เรียกว่า Beriberi
อาการของการขาดวิตามินบี 1 ได้แก่ ใจสั่น (cardiac palpitations), หัวใจโต, แผลกล้ามเนื้อหัวใจ (myocardial lesions), polyneuritis (เส้นประสาทอักเสบ), การสูญเสียรีเฟล็กซ์ของเข่า และข้อเท้าและข้อเข่า (ankle and knee jerk reflexes), นิ้วโป้งเท้าและเท้าตก (อัมพาตของกล้ามเนื้อที่งอเท้า), กล้ามเนื้ออ่อนแรงจนฝ่อ, ความไม่มั่นคงทางจิตใจ, หลงลืม , สับสน, ความเหนื่อยล้าและการเบื่ออาหาร
วิตามินบี -2 (ไรโบฟลาวิน)
หน้าที่ของ B-2 คือ การดูแลดวงตา, รอยแตกมุมปาก (ปากนกกระจอก) และอาการปวดหัวไมเกรน B-2 มีความสามารถในการป้องกันต้อกระจก และขับไล่ความเมื่อยล้าของดวงตา ใช้รักษาปากนกกระจอกมานานแล้ว
วิตามินบี 3 (ไนอาซิน, กรดนิโคตินิก, ไนอะซินาไมด์)
การใช้ไนอาซินในด้านการแพทย์ในปัจจุบันคือ รับประทานในปริมาณที่สูง เพื่อลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์
วิตามิน B-5 (กรดแพนโทธีนิก)
อาการขาด B-5 ได้แก่ ความเมื่อยล้า, ปวดศีรษะ, คลื่นไส้, บุคลิกภาพเปลี่ยนแปลง, เวียนศีรษะ, หัวใจเต้นเร็วจากการออกแรง, ระบบทางเดินอาหารทำงานน้อยลง, กล้ามเนื้อเป็นตะคริว, การประสานงานของร่างกายบกพร่อง, อาการชาและการรู้สึกเสียวซ่า (tingling) ของมือและเท้า มีการใช้ B-5 ในการรักษาโรคภูมิแพ้, โรคข้ออักเสบ และภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
วิตามินบี 6 (ไพริดอกซิน)
การใช้ B-6 ในการรักษา ได้แก่ อาการแพ้ท้อง, PMS หรือ Premenstrual Syndrome คือกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน และวัยหมดประจำเดือน สำหรับทั้งอาการทางอารมณ์และทางร่างกาย, โรค carpal tunnel, อาการบวมน้ำ, การขาดวิตามินบี 6 ในผู้ที่รับประทานยาคุมกำเนิด และการลด homocysteine ซึ่งเป็นสารเมตาบอไลต์ที่เป็นพิษของกรดอะมิโน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคหัวใจ (ร่วมกับ B -12 และกรดโฟลิก)
วิตามิน B-12 (Cyanocobalamin)
การใช้งานในการรักษา สำหรับ B-12 ได้แก่ ความเหนื่อยล้า, ความอ่อนแอโดยทั่วไปพร้อมกับการเบื่ออาหาร, สุขภาพของเส้นประสาท, โรคงูสวัด, การเสื่อมของเส้นประสาท, ความเครียดการควบคุมโฮโมซิสเทอีน (ใช้ร่วมกับ B-6 และกรดโฟลิก) และโรคโลหิตจาง ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหลายคนเชื่อว่า หาก B-12 ทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น ก็เป็นหลักฐานที่น่าสันนิษฐานว่า ร่างกายขาดวิตามินบี 12 B-12 สามารถละลายน้ำได้และไม่เป็นพิษ ดังนั้น จึงไม่มีอะไรจะเสีย ถ้าจะลองเสริม B-12
ไบโอติน
อาการขาด ได้แก่ ความผิดปกติของผิวหนังต่างๆ รวมทั้งผิวซีดจาง, เบื่ออาหาร และคลื่นไส้, โรคโลหิตจางระดับต่ำ, ความเหนื่อยล้า, นอนไม่หลับ, ปวดกล้ามเนื้อ, ภาวะซึมเศร้า, ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ และผมร่วง
การใช้ด้านการรักษา ได้แก่ บำรุงสุขภาพผม, ECZEMA หรือ DERMATITIS คือโรคผิวหนังอักเสบ และเชื้อราแคนดิดา