แมกนีเซียมและโรคไต
เมื่อเราอายุมากขึ้น ไตของเราจะสูญเสียประสิทธิภาพในการควบคุมระดับแมกนีเซียม การดูดซึมแมกนีเซียมจะลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น เมื่ออายุประมาณ 70 ปี เราจะดูดซึมแมกนีเซียมได้เพียง 2 ใน 3 ของตอนอายุประมาณ 30 ปี
ไต เป็นที่ที่เลือดจะทิ้งสารอาหารส่วนเกินที่ร่างกายไม่ต้องการ หรือไม่สามารถจัดการได้ในขณะนั้นออกไป การศึกษาผลของการขาดแมกนีเซียมต่อไต ได้แสดงให้เห็นการสะสมของแคลเซียมในช่องว่างบริเวณคอร์ติโคเมดูลลารี (บริเวณรอยเชื่อมชั้นนอกและชั้นใน) และความเสียหายต่อเยื่อบุผิวท่อไต ความเสียหายต่อไตจากการขาดแมกนีเซียม จะสร้างวงจรย้อนกลับเชิงลบ (negative feedback loop) ที่ทำให้การขาดแมกนีเซียมรุนแรงขึ้น
การศึกษาด้วย Micropuncture แสดงให้เห็นว่า การดูดซึมแมกนีเซียมกลับ ในท่อไต ส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่บริเวณที่อาจได้รับความเสียหายจากการขาดแมกนีเซียม ซึ่งหมายความว่าภาวะเหล่านี้อาจทำให้เสียแมกนีเซียมในท่อไต
เมื่อร่างกายได้รับแมกนีเซียม แคลเซียมจะละลายได้มากขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นในเลือด, หัวใจ, สมอง, ไต และเนื้อเยื่อทั้งหมดในร่างกาย หากคุณมีแมกนีเซียมไม่เพียงพอที่จะช่วยให้แคลเซียมละลายได้ คุณอาจจบลงด้วยการที่กล้ามเนื้อหดเกร็ง เนื่องจากแคลเซียมมากเกิน, ไฟโบรมัยอัลเจีย (Fibromyalgia – เป็นโรคเรื้อรังที่ส่งผลให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บปวดตามกล้ามเนื้อ ร่วมกับมีอาการอ่อนเพลีย, มีปัญหาด้านความจำและสมาธิ), การแข็งตัวของหลอดเลือดแดง และแม้กระทั่งฟันผุ
หากมีแคลเซียมในไตมากเกินไป และมีแมกนีเซียมไม่เพียงพอที่จะละลายแคลเซียม คุณอาจก็อาจเป็นนิ่วในไต แมกนีเซียม เป็นตัวที่ควบคุมชะตากรรมของแคลเซียมในร่างกาย หากแมกนีเซียมไม่เพียงพอ แคลเซียมจะสะสมอยู่ในเนื้อเยื่ออ่อน (ไต, หลอดเลือดแดง, ข้อต่อ, สมอง ฯลฯ) การบริโภคแคลเซียมมากเกินไป อาจลดการดูดซึม และการใช้แมกนีเซียมของร่างกาย และการบริโภคแคลเซียมที่มากเกินไป ก็จะเพิ่มความต้องการแมกนีเซียมด้วย